วันเสาร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2554

การสมัคร บัตร Be1st ธนาคารกรุงเทพ

วิธีการสมัครบัตรบีเฟิร์ส ของธนาคารกรุงเทพ
---------------------------------------------------------------------------------------
Be1st
         Be1st บัตรบีเฟิร์สเป็นบัตร ATM ของธนาคารกรุงเทพ
อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนไม่มีบัตรเดรดิตครับ ก็ใช้บัตรเดบิต (atm) ของธนาคารกรุงเทพได้ ที่เป็นบัตร Be1st (บีเฟริส) เพื่อนำมาสมัคร Paypal ได้

1. เปิดบัญชีกับธนาคาร เป็นบัญชีสะสมทรัพย์ หรือกระแสรายวัน ก็ได้ครับ แล้วก็ทำบัตร Be 1st เลย เป็นบัตรเอทีเอ็มนี่แหละครับ แต่เดี๋ยวนี้สามารถนำมาใช้ซื้อของผ่านอินเตอร์เนตได้เหมือนบัตรเครดิตแล้ว
เอกสารที่ต้องเตรียม : บัตรประชาชน (หรือหนังสือเดินทาง) สามารถรอรับบัตรบีเฟริร์สที่หน้าเคาร์เตอร์ ได้ทันที

  เมื่อขอทำบัตรปีเฟริสเสร็จแล้ว บอกธนาคารว่าขอสมัคร internet banking (ไอแบงค์กิ้ง)
ต่อได้เลย
เพื่อทำธุรกรรมออนไลน์
เช่น เช็คยอดเงิน โอนเงิน หรือธุรกรรมอื่น ๆ ดาวน์โหลดเอกสาร
สมัครไอแบงค์กิ้ง ที่นี้ (กรอกเอกสารให้ครบถ้วนแล้วเซ็นต์ชื่อต่อหน้าเจ้าหน้าที่ธนาคาร)

เตรียมเอกสารเพื่อขอใช้ไอแบงค์กิ้ง
โปรดนำใบสมัครที่กรอกแล้วพร้อมเอกสารดังต่อไปนี้มายังธนาคาร
  • สมุดคู่ฝาก
  • บัตรประชาชน หรือ
  • บัตรที่มีตัวเลข 13 หลักและมีรูปถ่ายที่ทางราชการออกให้    
  • หนังสือเดินทาง (กรณีเป็นชาวต่างชาติ)
  • ใบอนุญาตทำงานที่ยังไม่หมดอายุ หรือใบสำคัญถิ่นที่อยู่ (กรณีเป็นชาวต่างชาติ)
หลังจากได้รหัสผ่านจากธนาคาร ท่านสามารถเข้าระบบเพื่อจัดการธุรกรรมบัญชีของเรา
ได้ ที่นี้ (https://ibanking.bangkokbank.com/BiB/index_th.html)

ตัวอย่างบัตรปีเฟริส




Credit Card Number:
4213358610737321
Expiration Date: 09/16
Cardholder Name:xxxxxxxxxxx
Card Security Code (CSC): 008

 
2. ขั้นตอนถัดมาคือต้องโทรไป Verified ก่อนครับ จะได้ใช้ผ่านอินเตอร์เนตได้ (Verified by Visa)
โทรไป Verified ที่ 1333 ครับ


1) โทรศัพท์มายัง บัวหลวงโฟน 1333 หรือ 0-2645-5555
2) กด 1 เพื่อเลือกภาษาไทย
3) กด 7 เพื่อสมัครใช้บริการ Verified by Visa
4) กด 1 เพื่อทำการตั้งหมายเลขอ้างอิงสำหรับลงทะเบียน Verified by Visa
5) กดหมายเลขบัตร Be1st ของคุณ
6) กดรหัสลับส่วนตัว (รหัส ATM) ของคุณ
7) กดหมายเลขอ้างอิง 8 หลักที่คุณต้องการ
8) กดหมายเลขอ้างอิง 8 หลักของคุณอีกครั้งเพื่อทำการยืนยัน
เป็นอันเสร็จสิ้นการขอหมายเลขอ้างอิง (Reference Code)
จากนั้นระบบจะแนะนำให้คุณไปลงทะเบียนบนอินเตอร์เน็ตอีกครั้งกับหมายเลขอ้างอิง
8 หลักที่คุณสมัครใช้กับ 1333 ที่เว็บไซต์ www.bangkokbank.com/bualuangipay

เท่านี้ก็เสร็จสิ้นขั้นตอนทำบัตรแล้วนะครับ ทีนี้ก็หมดปัญหาอุปสรรคในการทำธุรกิจกันแล้วนะครับ ก็นำไปเริ่มสมัคร PayPal กันได้เลยครับ>>
 

"Be Secure?"
ความปลอดภัยรูปแบบใหม่สำหรับนักช้อปออนไลน์
เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ถือบัตร ธนาคารกรุงเทพในการชำระค่าสินค้าและบริการด้วยบัตรเครดิตทางอินเทอร์เน็ต ธนาคารได้พัฒนาระบบความปลอดภัยรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า "Be Secure?" เพื่อให้สามารถรองรับระบบ "Verified by Visa (VbV)" ซึ่งช่วยยืนยันตัวตนของผู้ถือบัตรได้ถูกต้องและแม่นยำยิ่งขึ้น
Be Secure? เป็นระบบมาตรฐานความปลอดภัยรูปแบบใหม่ที่ธนาคารกรุงเทพ บริษัทวีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล และบริษัทมาสเตอร์ การ์ด อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมกันพัฒนาขึ้นสำหรับการชำระค่าสินค้าและบริการทางอินเทอร์เน็ตด้วยบัตร เครดิตหรือบัตรเดบิตให้แก่ร้านค้าในระบบออนไลน์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ถือบัตร โดยผู้ถือบัตรเครดิตและบัตรเดบิตธนาคารกรุงเทพสามารถใช้ระบบ Be Secure? ได้ กล่าวคือ
  • ผู้ถือบัตรเครดิตวีซ่าทุกประเภทและบัตรบีเฟิสต์ สามารถใช้บริการ Verified by Visa (VbV)
  • ผู้ถือบัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ดทุก ประเภท สามารถใช้บริการ MasterCard Secure Code (ผู้ถือบัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ดทุกประเภทเริ่มใช้บริการได้ตั้งแต่ 15 เมษายน 2550)
ประโยชน์ของการสมัครใช้บริการ Be Secure?
1. เพิ่มความปลอดภัยในการชำระค่าสินค้าและบริการทางอินเทอร์เน็ตด้วยบัตรเครดิตและบัตรเดบิต ด้วยรหัส VbV/Secure Code ซึ่งผู้ถือบัตรเป็นผู้กำหนดขึ้นเอง เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นลักลอบใช้หมายเลขบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตของคุณ ในการทำธุรกรรมทางอินเทอร์เน็ต
2. เพิ่มความมั่นใจด้วยการใช้รหัสส่วนตัว (PAM) ที่จะปรากฏในหน้าเว็บไซต์ขณะทำรายการ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณกำลังทำธุรกรรมกับร้านค้าที่ได้รับการรับรอง จากบริษัทวีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล และบริษัทมาสเตอร์การ์ด อินเตอร์เนชั่นแนล
3. คุณสามารถสมัครใช้บริการนี้ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก www.sunthailand.com
   

การสมัครบัตร K-WEB CARD

วิธีการสมัคร K-WEBCARD กสิกรไทย
---------------------------------------------------------------------------------------
K-Web Card
K-Web Card บัตร virtual visa card ของธนาคารกสิกรไทย

K-Web Shopping Card หรือ K-Web Card (ชื่อ เก่าคือ E-Web Card) เป็นบัตรซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ตของกสิกรไทย ที่ทางกสิกรไทยเค้าออกให้ผู้ถือบัญชีกสิกรไทยได้ใช้ง่ายๆ ไม่ต้องใช้เอกสารอะไรวุ่นวาย สามารถเปิดใช้ได้ง่าย และรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังได้ผ่านการรับรองความปลอดภัยเรียบร้อยแล้วครับ

การทำบัตร K-Web Card
เงื่อนไขการใช้บริการ

มีบัญชีเงินฝากของธนาคาร กสิกรไทย
เป็นสมาชิก K-Cyber Banking
ค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมรายปี 200 บาท
พิเศษ ฟรีค่าธรรมเนียมรายปี (ปีแรก)
เมื่อ สมัครตั้งแต่วันนี้-ธันวาคม 2551

ค่าใช้จ่ายในการมี K-Web Card
+ค่าเปิดบัญชีธนาคาร ฟรี
+ค่าบัตร ATM 200-300 บาท (ไม่ทำก็ได้)
+ค่าเปิดใช้ K-Cyber Banking ฟรี
+ค่าเปิดใช้ K-Web Card ฟรี
+ฝากเงินในบัญชี ควรมีเงินฝากติดบัญชี ซัก 500 บาท นะครับ
ยอดรวม 500-800 บาท
บริการทำธุรกรรมผ่านเนต เช่น โอนเงิน, ชำระเงิน, ดูรายการเคลื่อนไหว โดยไม่ต้องไปธนาคาร เรียกว่า
ธนาคารออนไลน์ ของธนาคารกสิกรไทย เรียกว่า K-Cyber Banking
วิธีทำบัตร K-Web Card
วิธีทำโดยละเอียด
ไปธนาคาร ทำสองข้อดังนี้
1. เปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ที่ธนาคาร (ใช้บัตรประชาชน)
**ถ้ามีบัญชีอยู่แล้ว ก็ให้นำสมุดบัญชี กับบัตรประชาชน ไปทำข้อ 2 ได้เลย (ทำสาขาไหนก็ได้)
** ฝากเงินประมาณ 500 บาท เผื่อเหลือเผื่อ
ขาดเอาไว้นะครับ
2. บอกเจ้าหน้าที่ธนาคารว่า ขอเปิดใช้บริการ K-Cyber Banking (เค-ไซเบอร์-แบ้งกิ้ง) ด้วยครับ
เค้าจะเอาแบบฟอร์มอีกใบให้กรอกนะครับ ตอนนี้ก็กรอกอีเมล และเบอร์โทรที่ใช้ประจำ นะครับ สำคัญมาก
เสร็จแล้ว ก็กลับมาที่บ้าน รออีเมลจากธนาคารประมาณ 1 วัน จะมีอีเมล 2 ฉบับ ซึ่ง จะมี รหัส PIN สำหรับใช้บริการ K-Cyber Banking
เมื่อได้รับอีเมลแล้ว ก็จะเริ่มทำ K-Web Card ที่เราต้องการได้เลยครับ
หลังจากนี้ จะเป็นการสมัครที่เหลือ ผ่านอินเตอร์เน็ตทั้งหมดนะครับ ดูวิธีการต่อด้านล่างได้เลยครับ
การเปิดใช้ K-Cyber Banking ครั้งแรก

1. เข้าเว็บไซต์ https://ebank.kasikornbank.com/kcyber/login_th.html
*ระวังพิมพ์ผิด ไปเข้าเวปปลอมนะครับ ดู http ต้องเป็น https ครับ
เลือก ระบบภาษา เป็นภาษาไทย ตามภาพ
ชื่อผู้ใช้งาน พิมพ์ ..........(หมายเลขบัญชีธนาคาารของคุณ)
รหัสผ่าน พิมพ์ ............(หมายเลข PIN 1 ที่ธนาคารให้มา)
คลิก เข้าสู่ระบบ


2. อ่านเงื่อนไข ตามภาพ แล้ว ก็กด ปุ่ม ยอมรับ
3. กรอกรายละเอียด
กำหนดชื่อผู้ใช้งาน
ชื่อผู้ใช้งาน พิมพ์ ชื่อที่เราต้องการใช้ Login กำหนด 6-8 ตัวอักษร โดย เป็นตัวอักษรทั้งหมด,ตัวเลขทั้งหมด หรือ ผสมกันก็ได้ครับ
ยืนยันผู้ใช้งานอีกครั้ง พิมพ์ เหมือนเดิมอีกครั้งครับ
กำหนดรหัสผ่าน
รหัสผ่านเดิม พิมพ์ รหัส PIN 1
รหัสผ่านใหม่ พิมพ์ รหัส ที่เราต้องการ ให้มี 8-10 ตัวอักษร โดย เป็นตัวอักษรทั้งหมด,ตัวเลขทั้งหมด หรือ ผสมกันก็ได้ครับ
ยืนยันรหัสผ่านใหม่อีกคร้ง พิมพ์ รหัสใหม่อีกครั้งให้เหมือนกัน

*ให้เอากระดาษ-ปากกา ขึ้นมาจดชื่อผู้ใช้งาน และรหัสผ่านใหม่ เอาไว้นะครับ เพื่อกันลืม
4. ตามภาพ ตรวจดูข้อมูลของคุณว่าครบหรือไม่ โดยเฉพาะช่องที่มีเครื่องหมาย * ต้อมพิมพ์ให้ครบ
5. ตรวจดูข้อมูลของคุณว่าครบหรือไม่ ถ้าครบ กดปุ่ม ยืนยัน
6. ตามภาพ รหัสรักษาความปลอดภัย
รหัสรักษาความปลอดภัยใหม่ พิมพ์ รหัสความปลอดภัยที่คุณตั้งขึ้น จะต้องมี 10-12 ตัวอักษร โดย เป็นตัวอักษรทั้งหมด,ตัวเลขทั้งหมดหรือผสมกันก็ได้
ยืนยันรหัสรักษาความปลอดภัยใหม่อีกคร้ง พิมพ์ รหัสความปลอดภัยที่คุณตั้งขึ้นอีกคร้งให้เหมือนกัน
**แนะนำให้ใช้รหัส OTP โดยเลือกที่ช่องแล้วใส่หมายเลขโทรศัพท์ลงไป โดยทุกๆครั้งที่มีการทำธุรกรรมทางการเงินผ่าเว็ป จะมีการแจ้ง Password ไปที่โทรศัพท์ ทำให้เราไม่ต้องจำ แล้ว Password แต่ละครั้งก็จะไม่เหมือนกัน ดังนั้นจะปลอดภัยมาก
7. เจอหน้านี้ ก็เรียบร้อยแล้ว กับการตั้งค่าเมื่อเข้าสู่บริการครั้งแรก ทีนี้ก็กดต่อไปเลยนะครับ
8. จะเข้าสู่หน้าจอหลัก ตามภาพ นี่เป็นหน้าสมาชิกในเวปกสิกรไทยของคุณเองนะครับ ส่วนนี้แหละครับ ที่เค้าเรียกกันว่า บริการ K-Cyber Banking ที่คุณจะสามารถใช้บริการธนาคารออนไลน์ได้ โดยเฉพาะการดูรายการเคลื่อนไหวบัญชี เช่นการรับเงิน ถอนเงิน โอนเงิน ชำระเงิน ต่างๆเหล่านี้ครับ
คุณก็สามารถคลิกดูที่เมนูต่างๆได้ ลองหัดใช้ดูนะครับ
การเปิดใช้ K-Web Card

9. หลังจากใช้ K-Cyber Banking ได้แล้ว ทีนี้เราก็จะไปทำเคเวปการ์ดกันครับ โดยคลิกที่ ออมเงิน และลงทุน ครับ
10. ตรงกลางๆ จะมีลิงค์สมัครบัตรเวปการ์ดนะครับ คลิกเลยครับ
11. ทีนี้ก็กำหนดวงเงินเลยครับ การกำหนดวงเงิน คือกำหนดว่า แต่ละเดือน เราจะจำกัดตัวเองให้ใช้เงินได้ไม่เกินกี่บาทต่อเดือน เช่น 2000 บาท หรือ 3000 บาท (เฉพาะสำหรับบัตรเคเวปการ์ดใบนี้) ถ้าหากเดือนนั้น ใช้เงินจนเต็มวงเงินแล้ว ก็จะไม่สามารถใช้เงินได้อีกครับ ในส่วนนี้ สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดครับ ไม่ต้องห่วง ดังนั้น ตั้งได้ตามใจชอบเลยครับ
12. ตามภาพ อ่านเงื่อนไข และกดปุ่ม ยอมรับ
13. กรอกรหัส OTP ซึ่งจะมี SMS ส่งเข้ามือถือของคุณ ให้เอารหัสจาก SMS มากรอกครับ
14. ได้ภาพนี้ ก็แสดงว่า ขอบัตรเคเวปการ์ดเสร็จแล้ว ทีนี้ก็รอประมาณ 1 วันนะครับ ถึงจะได้เลขบัตรเคเวปการ์ด
15. หลังจากเวลาผ่านไป 1 วัน จึง Login เข้าไป ที่เว็บไซต์ของธนาคารกสิกรไทย
https://ebank.kasikornbank.com/kcyber/login_th.html
ด้วย Username และ Password ใหม่ ที่ได้ตั้งไป
คลิกที่ ยอดเงินในบัญชี ที่เมนูด้านขวามือครับ
แล้วเลือกบัญชีที่มีตัวเลข 16 หลัก (ที่ยาวๆกว่า) บัญชีนี้ คือเลขเคเวปการ์ดที่เราได้มานั่นเอง
ถ้ามี เพียง 1 บัญชี แสดงว่า ทางธนาคาร ยังไม่ได้ส่ง เลขที่ K-Web Card มาให้เรา ก็ต้องรอครับ
16. รายละเอียด ของ อีเว็บการ์ด ที่สามารถใช้ข้อมูล ไปสมัครทำธุรกิจ ได้ครับ
cvv = หมายเลขรหัสความปลอดภัย
เท่า นี้ก็เสร็จสิ้นขั้นตอนทำบัตรแล้วนะครับ ทีนี้ก็หมดปัญหาอุปสรรคในการทำธุรกิจกันแล้วนะครับ เมื่อได้เลขเคเว็บการ์ดมาเรียบร้อยแบบนี้แล้ว ก็นำไปเริ่มสมัคร PayPal กันได้เลยครับ>>

อ้างอิงข้อมูลจาก www.sunthailand.com  ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ

การเปิดบัญชี PAYPAL

วิธีการเปิดบัญชี Paypal
-
PayPal เป็นธนาคารออนไลน์ระดับโลก ความปลอดภัยสูงที่สุด และที่สำคัญเปิดใช้ได้ฟรี

สิ่งที่จำเป็นสำหรับการสมัคร paypal คือ บัตรเครดิต ดังนั้นถ้ายังไม่มี ก็จะไม่สามารถสมัครได้อย่างสมบูรณ์
แนะนำให้เตรียมบัตรมาให้พร้อมก่อน จึงมาสมัคร
ถ้าไม่มีบัตรเครดิต บัตรที่สามารถใช้แทนได้มีดังนี้
1. ถ้าท่านมีบัญชีของธนาคารกรุงเทพ ให้ไปติดต่อสาขาที่ท่านเปิดบัญชี เพื่อขอทำบัตรบีเฟิร์สและอย่าลืมสมัครใช้ ไอแบงค์กิ้ง (ธนาคารทางอินเตอร์เน็ต)ด้วย และ ต้องบอกกับธนาคารกรุงเทพสาขาที่คุณไปเปิดบัตบีเฟริสว่า สมัครแบบสั่งซื้อสินค้าออนไลน์หรือนำมาสมัคร Paypal ได้ และจะต้องเป็นบัตรที่มีเลข CVV หรือ (CSC) หลังบัตรบัตรปีเฟริส์เท่านั้น คุณถึงจะนำมาสมัคร Paypal ได้
----------------------------------------
2. ถ้าท่านมีบัญชีของธนาคารกสิกรไทย (หรือถ้าไม่มีก็ไปเปิดบัญชีได้นะครับ) ให้ไปติดต่อที่ธนาคารเพื่อขอใช้บริการ K CYBER Banking
(ธนาคารทางอินเตอร์เน็ต) และหลังจากนั้นท่านสามารถนำมาสมัคร K webcard เพื่อได้รหัสนำไปสมัคร Paypal

อ่านรายละเอียดวิธีการสมัคร K webcard และการยืนยัน คลิ๊กเลย
----------------------------------------
หลังจากได้บัตรแล้ว สามารถนำมาสมัคร Paypal ตามขั้นตอนข้างล่างต่อไป
*** ถ้ามีบัตรเครดิตอยู่แล้ว ขั้นตอนการสมัครบัตรทั้ง 2 อย่างไม่จำเป็นต้องทำ ***
ขั้นตอนที่ 1. กรอกแบบฟอร์ม

แต่ละขั้นตอนจะทำต่อเนื่องกัน อย่าข้ามขั้นตอน
*ไม่จำเป็นต้องทำให้เสร็จในคราวเดียว ทำให้เสร็จเป็นอย่างๆ ทีละหัวข้อก็ได้

เริ่มการสมัคร
1. คลิ๊กที่แบนเนอร์
2. กด Sign Up Today

3. คลิกลูกศร เลือก Thailand
4. เลือกภาษา English
5. คลิกเลือก Premier Account คลิกที่ Get Started
6. ต่อไปก็กรอกแบบฟอร์ม กรอกเป็นภาษาอังกฤษ

*เอากระดาษกับปากกาขึ้นมาจด Email , Password กันลืมก่อนเข้าสู่หน้าถัดไป
1. กรอกเลขบัตรเครดิต ,E-Web Card , บัตรบีเฟริส ให้ครบถ้วน
- บัตรบีเฟริส คือ บัตร ATM ของธนาคารกรุงเทพ สามารถนำมาใช้สมัคร paypal ได้ ถ้าใครยังไม่มีให้ ดูรายละเอียดวิธีการสมัครที่นี้
- บัตร E-Web Card ดูรายละเอียดวิธีการสมัครที่นี้
จะมีหลายข้อความแตกต่างกันตามปัญหาที่เกิดขึ้น แก้ไขตามปัญหา ดังนี้

You have entered an invalid number or partial credit card or debit card number. please check your entry and try again.
• Expiration Date: Please enter a valid card expiration date.
กรอกเลขบัตรเครดิตผิด ให้กรอกเลขบัตรถูก และวันที่หมดอายุให้ถูกต้อง
Your information is incomplete or incorrect. Please correct the fields below and try again.
• Expiration Date: Please enter a valid card expiration date.
กรอกข้อมูลผิด กรุณากรอกให้ถูกต้อง
That card number is already assigned to another PayPal account. For security purposes, each card may only be assigned to one  PayPal account. If you have already opened a PayPal account, please retrieve the relevant information and log in. otherwise,  please use a different card.
บัตรใบนี้ถูกใช้ในแอคเค้าท์อื่นแล้ว ไม่สามารถใช้ซ้ำได้ คุณอาจจะเคยเปิดแอคเค้าท์มาก่อนแล้ว ให้พยายาม log in ด้วยแอคเค้าท์เดิม หรือหาก ต้องการเปิดแอคเค้าท์ใหม่จริงๆ ให้ใช้บัตรใบอื่นสมัคร
Before you can add this credit card to another account, you must contact the PayPal Credit Card Team at  cardproblems@paypal.com. A customer service representative will respond to your request shortly. If you would rather add a  different credit card to your PayPal account, you may do so at any time. Thank you for your cooperation.
ถ้าหากต้องการ
Add บัตรใบนี้ลงในแอคเค้าท์ ต้องติดต่อทีมบัตรเครดิตของ PayPal ที่ cardproblems@paypal.com พนักงานจะติดต่อคุณโดย เร็ว หรืออีกทางหนึ่ง คือใส่บัตรเครดิตใบอื่นแทน
This credit card has been denied by the bank that issued your credit card. For detads on why your card was dined, please contact  you credit card issuer's customer service department. or, you may want to try adding a different credit card.
บัตรใบนี้ถูกปฏิเสธ โดยธนาคารผู้ออกบัตร กรุณาสอบถามธนาคารเจ้าของบัตร หรือใช้บัตรใบอื่นแทน
*กรณีนี้ บัตรน่าจะใช้ได้ แต่คุณอาจจะต้องไปทำบัตรให้ถูกต้องตามวิธีที่แนะนำ เช่น บัตรบีเฟริส ต้อง
verify ให้เรียบร้อยครบทุกขั้นตอนก่อน ,  บัตรเคเวปการ์ด อาจจะต้องรอประมาณ 4-5 ชม. จึงจะใช้ได้เป็นต้น
2. กด Get Number

ให้กด Get Number เพื่อให้ PayPal ทดสอบตัดเงินจากบัตรคุณ $1.95 หรือประมาณ 60-70 บาท เพื่อทดสอบบัตร (แต่จะได้คืนเป็นโบนัสภายหลัง เมื่อทำรายการเสร็จ)
ขั้นตอนที่ 3 การยืนยันอีเมล
เข้าไปเช็คอีเมลเพื่อยืนยันอีเมลครับ ให้ log in เข้าไปในอีเมลที่คุณสมัคร PayPal เมื่อกี๊ครับ (ที่จดเอาไว้)

คลิกเข้าไปดูในจดหมายครับ จะมีลิงค์ให้คลิก
ใส่พาสเวิร์ดที่ให้จดเอาไว้นะครับ



เสร็จสมบูรณ์แล้วนะครับ สำหรับ PayPal
การถอนเงินจาก PayPal เข้าธนาคารกรุงเทพโดยผ่านธนาคารกรุงเทพ สาขานิวยอร์ก
* เข้าที่สาขาไทยก็ได้ *
เปิดบัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ หรือ บัญชีเงินฝากประจำ กับธนาคารกรุงเทพที่สาขาใดก็ได้ทั่วประเทศ

(ชื่อบัญชีที่เปิดและชื่อที่ลงทะเบียนใน PayPal ต้องเป็นชื่อเดียวกัน มิฉะนั้น ธนาคารจะไม่สามารถนำเงินเข้าบัญชีได้ และต้องส่งเงินคืน PayPal)


1. ลงทะเบียนบัญชีธนาคารใน PayPal โดยเลือกประเทศเป็น United States (สหรัฐอเมริกา) และใส่ข้อมูลดังตัวอย่างต่อไปนี้

Bank Name: Bangkok Bank (ไม่ต้องระบุสาขา)

Account Type: S/A หรือ F/A (ระบุประเภทบัญชี) *

Routing Number: 026008691

Account Number: xxxxxxxxxx (ระบุเลขที่บัญชีธนาคาร 10 หลัก)

Re-enter Account Number: xxxxxxxxxx (ระบุเลขที่บัญชีธนาคาร 10 หลัก อีกครั้ง)

*S/A : บัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์

F/A : บัญชีเงินฝากประจำ

หลังจากใส่ข้อมูลครบถ้วนแล้ว จะได้รับการตอบรับจาก PayPal ดังนี้ “You have added a bank in United States!”

การลงทะเบียนธนาคารกรุงเทพกับ PayPal เสร็จสิ้น และสามารถถอนเงินจากบัญชีได้ตามต้องการ

(หมายเหตุ : หาก PayPal ขอให้ Confirm Your Bank Account โดยการฝากเงิน 2 จำนวนเล็ก ๆ เข้าบัญชีธนาคารที่ลงทะเบียนไว้ ไม่ต้องทำขั้นตอนนี้ เพราะบัญชีที่ใช้ลงทะเบียนเป็นบัญชีในประเทศไทย ไม่ใช่ในประเทศสหรัฐอเมริกา)
2. ธนาคารกรุงเทพคิดค่าธรรมเนียมดังนี้
- ธ.กรุงเทพ สาขานิวยอร์ก:
จำนวน
ค่าธรรมเนียม
น้อยกว่า 50 USD
ฟรี
51 USD – 100 USD
3 USD
100.01 USD – 2,000 USD
5 USD
2,000.01 USD – 50,000 USD
10 USD
ตั้งแต่ 50,000.01 USD ขึ้นไป
20 USD
- ธ. กรุงเทพ สำนักงานใหญ่ :อัตรา 0.25 % ขั้นต่ำ 200 บาท สูงสุดไม่เกิน 500 บาท

ประโยชน์ของการถอนเงินจาก PayPal เข้าธนาคารกรุงเทพ

1) อัตราแลกเปลี่ยนดีกว่า ทำให้ได้รับเงินบาทมากกว่า

? PayPal จะส่งเงินให้ธนาคารกรุงเทพเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและธนาคารกรุงเทพ สนญ.แปลงเป็นเงินบาทโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนประจำวันของธนาคาร (ช่องรับซื้อ/โอนเงิน) และนำเงินเข้าบัญชีผู้รับเงินต่อไป

? อัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารกรุงเทพดีกว่าอัตราแลกเปลี่ยนของ PayPal มากถึง 2-3 บาทต่อ 1 USD ทำให้ได้รับจำนวนเงินบาทมากขึ้น ดังตัวอย่างต่อไปนี้

ตัวอย่าง: เปรียบเทียบการถอนเงินจาก PayPal จำนวน 1,500 USD เข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ และธนาคารอื่น ในประเทศไทย
ธนาคารกรุงเทพ
ธนาคารอื่นในประเทศไทย
? จำนวนเงิน1,500 USD


? 1 USD = 34.19 บาท(อัตรารับซื้อ/เงินโอน)


? ค่าธรรมเนียม BBL., N.Y. = 5 USD


? ค่าธรรมเนียม BBL., H.O. = 200 บาท
? จำนวนเงิน1,500 USD


? 1 USD = 31.29 บาท
ได้รับเงิน 50,914.05 บาท
ได้รับเงิน 46,935.00 บาท
ใช้บัญชีธนาคารกรุงเทพรับเงินจาก PayPalผ่านสาขานิวยอร์ก จะได้รับเงินบาทมากกว่าการรับผ่านบัญชีธนาคารอื่นในประเทศไทยถึง 3,979.05 บาท

2) ได้รับเงินโอนรวดเร็ว ภายใน 3-4 วัน

3) เช็คสอบข้อมูลเงินโอนจากต่างประเทศด้วยตนเองทางอินเตอร์เน็ต สะดวก ทุกที่ ทุกเวลา ด้วยบริการบัวหลวงไอแบงก์กิ้ง สำหรับบัญชีบุคคล หรือ บิซ ไอแบงก์กิ้ง สำหรับบัญชีนิติบุคคล สอบถามข้อมูลการสมัครใช้บริการได้ที่ www.bangkokbank.com หรือ บัวหลวงโฟน โทร. 1333 หรือ 02 645-5555

-ข้อมูลจาก ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด
การเข้าระบบและการเปลี่ยนรหัสผ่านใน Paypal
*** เพื่อความปลอดภัยของบัญชีคุณ ควรเปลี่ยนรหัสผ่านอย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง ***
-------------------------------------------------------------
เนื่องจากขณะนี้มีเวบหลอกหลวงที่หน้าตาคล้าย Paypal จำนวนมาก ที่หลอกให้เราป้อนข้อมูล
และเวบเหล่านั้นจะเข้าไปโจรกรรมเงินในบัญชี Paypal ถ้าเราเผลอป้อนข้อมูลเข้าไป เพื่อความปลอดภัย
บัญชีของคุณ ให้สังเกต ดังนี้
1. เข้า www.paypal.com ให้สังเกตดูที่ Adress Bar ว่ามีระบบความปลอดภัยหรือไม่ <รูปภาพ>

 
*** เพื่อความปลอดภัยของบัญชีคุณ ควรเปลี่ยนรหัสผ่านอย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง ***


เพื่อความปลอดภัย Paypal ได้เตรียมระบบที่ในการเปลี่ยนรหัสผ่าน 2 ขั้นตอน ถ้าเปลี่ยนบ่อยระบบจะให้เข้าสู่ขั้นตอนที่ 2
 แต่ถ้านาน ๆ เปลี่ยนครั้ง ระบบจะให้ทำทั้ง 2 ขั้นตอน
ขั้นตอนที่ 1. เปลี่ยนคำถาม - คำตอบใหม่
ขั้นตอนที่ 2. ขั้นตอนการเปลี่ยนรหัสผ่าน
ขั้นตอssนที่ 1. เปลี่ยนคำถาม - คำตอบใหม่
เข้าที่เวบ www.paypal.com

.
1. ป้อน Username (เมล์ที่ใช้สมัคร Paypal)
2. ป้อนรหัสผ่าน
.


3. กดที่ Edit profile


4. กดที่ Password
5. ติ๊กที่ Password
6. กด Edit
6. ระบบจะให้ยืนยันว่าคุณเป็นเจ้าของบัญชีจริงหรือไม่ โดยกำหนดคำถามมา 2 ข้อ
จากตัวอย่างข้างบน ระบบถาม 2 ข้อ (รายละเอียดส่วนนี้เป็นข้อมูลของคุณเอง)
1. รายละเอียดบัตรเครดิตลงท้าย 07 โดยให้ป้อนเลขบัตร 16 หลัก ต้องลงท้าย 07 เช่น 5434200126392007
2. บัญชีธนาคาร ลงท้ายด้วย 06 โดยให้ป้อนจำนวนเต็ม 10 หลัก เช่น 1914126360
7. กรอกครบทั้ง 2 ข้อ กด Summit
.
8 เสร็จสิ้นการเปลี่ยนระบบคำถาม-คำตอบ ความปลอดภัยขั้นที่ 1
.
ขั้นตอนที่ 2. ขั้นตอนการเปลี่ยนรหัสผ่าน
1. เข้าที่หน้าบัญชีอีกครั้งโดยกด My Account แล้วเลือก Edit profile (ข้อ 3 ข้างบน)
2. เลือกที่ Password (ข้อ 4 ข้างบน)
3. ติ๊กที่ Password กด Edit (ข้อ 5 ข้างบน)
.
Current Password ---- > รหัสผ่านเก่าที่ยังไม่เปลี่ยน
New Password ------ > ใส่รหัสผ่านใหม่ที่ต้องการเปลี่ยน
Re-enter Password -------- > ใส่รหัสผ่านใหม่อีกครั้ง
.
หลังจากนั้นให้ลอง Login รหัสใหม่
เพิ่มบัญชีธนาคารและโอนเงินเข้าบัญชีในไทย
-
ขั้นแรก เราต้องแอดบัญชีธนาคารเข้าไปก่อนครับ โดยจะเลือกบัญชีธนาคารไหนๆ ก็ได้ ที่เราต้องการ
-
วิธีการใส่บัญชีธนาคารก็ง่ายมากครับ
Log in เข้าไปที่ www.paypal.com ก่อนเลยครับ (กรอกอีเมล์ และ รหัสผ่าน)
หลังจากเข้าระบบแล้วให้คลิ๊ก edit profiles

ให้เลือกที่ช่อง Financial Information (ช่องกลาง)
เพิ่มธนาคารในระบบเรียบร้อยแล้ว
ขั้นต่อมา คือการถอนเงินครับ
การถอนเงินก็ง่ายมากถึงมากที่สุดครับ ก่อนอื่นก็ คลิกที่ Withdraw แล้วคลิกที่ Transfer funds to your bank account เพื่อระบุจำนวนเงินที่จะถอนเงิน ออกจากบัญชี Paypal เข้าบัญชีธนาคารของเรา
กรอกจำนวนเงินที่ต้องการจะถอน กด Continue และกด Submit ก็เป็นอันเสร็จ
ค่าธรรมเนียมในการถอนเงิน ถ้าต่ำกว่า 5,000 บาท จะคิดค่าธรรมเนียม 50 บาท แต่ถ้ามากกว่า 5,000 บาทนั้น ฟรีครับ
ประมาณ 5-7 วัน ทำการ เงินเข้าบัญชีของเราครับ
กรณีนี้เหมาะกับการถอนเงินจำนวนน้อยๆครับ ช่วงเงินไม่เกิน 400-500 เหรียญครับ (แล้วแต่อัตราแลกเปลี่ยนแต่ละช่วง) แต่ถ้ามากกว่านี้ ควรจะถอนด้วยวิธีแบบประหยัด เพราะอะไรนั้น มาดูการถอนเงินให้ประหยัดกันดีกว่าครับ
*ถอนบ่อยๆ เปลืองกว่าถอนทีละเยอะๆครับ แต่ก็ต้องทยอยถอนออกครับ จะได้ไม่เจอปัญหา limited access ถ้าหากเงินใน account มีไม่มากก็ไม่เป็นไรครับ แต่อย่าดองเงินเอาไว้เป็นหมื่นๆเหรียญ อันตรายครับ (เงินถึง 1-2 พันเหรียญก็ทยอยถอนออกได้แล้วครับ)
เพิ่มบัญชีธนาคารในสหรัฐและการถอนแบบประหยัด
-
-
คราวนี้ผมก็จะมาพูดถึงเรื่องการถอนเงิน แต่เป็นเรื่องที่หลายคนไม่ค่อยจะรู้ ผมก็จะมาพูดถึงการถอนเงินให้เห็นกันกระจ่างชัดกันซักที มันเป็นเรื่องที่หลายคนก็ไม่รู้ไปเลย  หรือหลายคนอาจจะยังสับสน และเป็นข้อถกเถียงกันอยู่
สำหรับการถอนเงินนั้น ดูเผินๆ คุณจะเห็นว่า การถอนเงินเข้าธนาคารประเทศไทยนั้น ค่าธรรมเนียมแสนถูก คือ 5,000 บาทไทย ขึ้นไป ไม่คิดค่าธรรมเนียม แต่ถ้าต่ำกว่า 5,000 บาท ก็คิดค่าธรรมเนียม เพียง 50 บาทเท่านั้นเอง

แต่เมื่อมาดูจริงๆแล้ว ยังมีค่าธรรมเนียม "แลกเปลี่ยนเงินตรา" อยู่อีก ซึ่งมากถึง 2.5% เลยทีเดียว
ซึ่งเค้าจะรวมกับอัตราแลกเปลี่ยน เช่น ถ้าอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันเป็น 35 เวลาถอนเงิน ก็อาจจะถูกลดเป็น 33 บาท (มหาโหด) เค้าจะจัดการคำนวณให้เสร็จสรรพ ดังนั้น ถ้าหากถอนเงิน 1000 เหรียญ ก็จะต้องเสียค่าธรรมเนียมถึง 25 เหรียญ (หรือราวๆ  875 บาท) กันเลย
    ผมจึงมีวิธีถอนเงิน ที่ประหยัดกว่า สำหรับการถอนเงินจำนวนมากๆ ดังนั้น ก็ต้องดูว่าเราจะถอนเงินกันเท่าไหร่นะครับ โดยตอนนี้ อัตราที่ผมคำนวณอยู่ที่ 1 เหรียญ = 35 บาท ดังนั้น ถ้าถอนเงินน้อยกว่า $450 ก็ให้ถอนแบบที่ 1 แต่ถ้าถอนมากกว่า $450 ก็ให้ ถอนแบบที่สองครับ
*ตารางนี้คิดตามอัตรา 1 เหรียญ = 35 บาท
ดูจากตาราง ก็พอจะทราบคร่าวๆ แล้วนะครับ ดังนั้น ถ้าถอนไม่เกิน $450 ก็ให้เลือกใช้วิธีที่ 1 ก็จะเสียเงินไม่เกิน 400 บาท แต่ ถ้าถอนมากกว่า $450 บาท ก็ให้เลือกใช้วิธีที่ 2 เพราะไม่ว่ายอดเงินจะเป็นเท่าไหร่ ก็จะเสียค่าธรรมเนียม 400 บาทครับ
 ทีนี้มาดูตัวอย่าง การถอนทั้งสองแบบ ผมจะถอน 90 เหรียญให้ดูนะครับ ตัวอย่างด้านล่างนี้ จะแสดงให้เห็นว่า ตอนที่ถอน เค้าก็ จะคำนวณเงินให้เสร็จสรรพเลย เราเปรียบเทียบได้ ว่าจะถอนแบบไหน เพราะอัตราค่าถอนก็เปลี่ยนแปลงตามค่าเงินบาทในแต่ ละช่วงครับ (ตัวอย่างด้านล่าง ไม่ได้แสดงให้เห็นความแตกต่างของเงินที่ประหยัดกว่ากันนะครับ)
วิธีที่ 1 ถอนแบบปกติ ผมถอนเข้าบัญชีกรุงไทย ครับ จำนวน 90 เหรียญ ใช้เวลา 5-7 วันทำการถึงจะได้เงิน ถอน 90 เหรียญจะ ถูกหักค่าธรรมเนียมดังด้านล่างนี้ ซึ่งวันที่ผมกดถอนเงิน อัตราแลกเปลี่ยนจริงอยู่ที่ราวๆ 1 เหรียญ ต่อ 33-34 บาท แต่ทาง  PayPal คิดให้ที่ 31.0354 (คิดรวม 2.5% แล้ว) ดังนั้น ยอดเงินสุทธิที่ผมจะได้รับคือ 2,743.18 บาท
วิธีที่ 2 ถอนแบบประหยัด ผมถอนเข้าธนาคารกรุงเทพ ลองถอนด้วยเงิน 90 เหรียญเท่ากัน จะเห็นว่า ใช้เวลาถอนเงิน 3-4 วัน ก็ จะได้รับเงินแล้ว และไม่มีการหักค่าธรรมเนียมใดๆ จาก PayPal ครับ
แต่วิธีนี้ เมื่อรับเงินจริง เราจะถูกธนาคารกรุงเทพ หักเงิน 400 บาท (ไม่ว่ายอดจะเป็นเท่าไหร่) ดังนั้น ยอดเงินสุทธิที่ผมจะได้รับคือประมาณ 2750 บาท  (คำนวณที่ 1 เหรียญต่อ 35 บาท)
*ดังนั้น ตอนที่คุณจะถอน คุณก็ต้องคำนวณวิธีที่สองด้วยตัวเอง โดยการ นำยอด 90 เหรียญ มาคูณอัตราแลกเปลี่ยนขณะนั้น  แล้วก็ลบด้วย 400 บาท ก็จะทราบยอดเงินสุทธิที่จะได้รับครับ

นอกจากเราจะเปรียบเทียบดูได้จากแบบข้างต้นที่ผมทำให้ดูแล้ว ยังเปรียบเทียบได้ ด้วยการใช้เครื่องมือช่วยคำนวณที่ PayPal  เตรียมไว้ให้ได้อีกด้วยนะครับ
โดยการคลิกที่ Currency Converter ครับ (อยู่ในหน้าที่กำลังจะถอนเงิน) เครื่องมือนี้จะช่วยคำนวณเงินให้กรณีถอนเงินวิธีที่ 1  นะครับ

จะมีหน้าต่างเด้งขึ้นมาอีกหน้าหนึ่ง ผมจะพาคำนวณที่ 1000 เหรียญนะครับ เมื่อกรอกเลขคำนวณลงไป จะเห็นว่า ยอดสุทธิที่เรา จะได้รับเป็น 30,770.80 บาทครับ

กรณีนี้ เราก็ลองคำนวณดูว่า ถ้าเราถอนแบบประหยัด เงิน 1000 เหรียญ เมื่อรับเป็นเงินไทย คูณที่อัตราปัจจุบัน สมมุติว่าเป็น 32  (ให้ใกล้เคียงกับด้านบนหน่อยนะครับ)
ยอดเงิน 1000 เหรียญ คูณอัตราแลกเปลี่ยนขณะนั้น = 1000x32 = 32000
แล้วหักค่าธรรมเนียม 400 บาท คงเหลือ 31600 บาท
    ต่างจากข้างบนราวๆ 800 บาทครับ
    จะมากน้อยเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนขณะนั้นนะครับ ต้องคำนวณใหม่ทุกครั้ง
วิธีถอนเงินแบบปกติ ก็ดูได้ที่ลิงคนี้ได้เลยครับ
ส่วนวิธีถอนแบบประหยัด ก็คือเราต้องใช้ธนาคารกรุงเทพนะครับ ดังนั้น ต้องมีบัญชีธนาคารกรุงเทพ ครับ (แนะนำให้เปิด โดยเฉพาะ คนที่ทำเงินได้เยอะๆ เพราะคุ้มกว่ามาก) เมื่อมีบัญชีธนาคารกรุงเทพแล้ว ก็ทำขั้นตอนดังนี้
วิธีถอนแบบประหยัด
1. login เข้าไปใน Paypal  Account ของเรา www.paypal.com  
แล้วไปเลือกที่ Profile > Financial Information > Bank Account
แล้วคลิกเลือก Add เลยครับ
2. ทำการใส่ข้อมูลเลขบัญชีธนาคารดังนี้

Country ให้เลือกเป็น United States
Bank name: Bangkok Bank
Account Type: Savings (สะสมทรัพย์)
Routing Number: 026008691
Account Number: ใส่หมายเลขบัญชีธนาคารกรุงเทพของเรา
Re-enter Account Number: ใส่หมายเลขบัญชีธนาคารกรุงเทพของเราอีกครั้ง
*ใส่ได้เฉพาะบัญชีธนาคารที่ชื่อตรงกับชื่อที่สมัครกับ PayPal เท่านั้น ถ้าไม่ตรงกัน จะมีปัญหาภายหลัง
เสร็จแล้วก็จะพบกับหน้านี้ครับ
เท่านี้ก็เสร็จขั้นแรกแล้ว จะเห็นว่าเราทำการใส่เลขบัญชีเข้าไปเรียบร้อยแล้ว แต่สถานะยังเป็น Unconfirmed อยู่ แสดงว่าเราต้องคอนเฟิมก่อนถึงจะใช้ได้
หลังจากนั้น เมื่อเราใส่รายละเอียดบัญชีธนาคารของเราไปแล้ว ไม่เกิน 3 วัน ทาง Paypal จะทำการฝากเงิน 2 จำนวนเข้ามาที่บัญชีของเรา ก็ให้เราทำการเช็คยอดเงินโอนเข้าจากต่างประเทศว่า โอนเงินเข้ามาจำนวนกี่ดอลล่าร์ (จะมี 2 จำนวน เช่น $0.01 และ $0.62) โดยให้เราโทรไปสอบถามได้ที่บัวหลวงโฟน 1333 ซึ่งเมื่อเราทราบแล้ว ก็ให้ทำการจดบันทึกไว้
    หลังจากนั้นเมื่อได้เลขมาแล้ว ก็ให้ login เข้าไปใน Paypal Account www.paypal.com
    แล้วไปคลิ๊กที่ Confirm Bank Account ใน To Do List ครับ
แล้วก็จัดการ ใส่ตัวเลขจำนวนเงินที่ Paypal ฝากเข้าบัญชีของเราจำนวน 2 ค่าลงไป
เมื่อใส่เลขแล้ว บัญชีของเราก็จะได้รับการยืนยันเป็น Confirmed แบบนี้นะครับ
เมื่อบัญชีธนาคารของคุณเป็น Confirmed แบบนี้ ก็จะสามารถถอนเงินแบบประหยัดได้เลยครับ เวลาถอนเงิน ก็เพียงแค่เลือกบัญชีธนาคารให้ถูกต้องเท่านั้นเองครับ
ถ้าถอนวิธีที่ 1 ก็ให้เลือกบัญชีธนาคารในประเทศไทย แต่ถ้าถอนวิธีที่ 2 ก็ให้เลือกบัญชีธนาคารกรุงเทพที่ทำการ Confirmed แล้วเท่านั้นเองครับ
เพียงเท่านี้ก็สามารถถอนเงินได้อย่างประหยัดที่สุดได้แล้วนะครับ
การโอนเงินระหว่าง Paypal ต่อ Paypal
---------------------------------------------------------------------------------------
1. Login เข้าระบบ Paypal

2. กด Send Money
2. ป้อนรายละเอียด
3. ตรวจสอบรายละเอียดก่อนโอน
4. การโอนเงินของท่านเรียบร้อยแล้วครับ
การป้องกันการโดน Limited Access (โดนแบน) และวิธีการแก้ไข
---------------------------------------------------------------------------------------
การป้องกันการโดน Limted Access
Limited Access คือการจำกัดการใช้งาน PayPal (หรือการล็อคบัญชี ไม่ให้ใช้งาน) เนื่องจาก PayPal พบว่า คุณเป็นบุคคลน่าสงสัย ไม่มีข้อมูลที่ยืนยันตัวตนได้จริง ใครที่โดน PayPal ล็อค account แบบนี้แล้ว เป็นเหมือนฝันร้ายเลยทีเดียว
Limited Access เกิด จากการที่เพพาลพยายามที่จะไปดึงเงินจากธนาคารกรุงเทพของคุณมา ใช้ ซึ่งไม่สามารถทำได้เนื่องจากบัญชีของคุณเป็นบัญชีที่เมืองไทย ดังนั้นเมื่อคุณชำระเงินโดยใช้เพพาล ให้แน่ใจว่าในบัญชีเพพาลของคุณมีเงินเพียงพอหรือว่าให้เพพาลไปดึงเงินมากจาก บัตรเครดิต หรือเดบิตที่คุณลงทะเบียนไว้กับเพพาล ห้ามไปดึงเงินมาจากบัญชีธนาคารโดยเด็ดขาด 
พอโดน Limited Access แล้ว แก้ปัญหาจนปวดหัว ดังนั้น กันไว้ก่อนครับ
วิธีป้องกันไม่ให้ Paypal ดึงเงินเราจากบัญชีธนาคาร
ไปที่ Profile ครับ แล้วในส่วนของ Financial Information นะครับ คลิกที่ Recurring  Payments ครับ
1.ให้ Login เข้าบัญชี Paypal
2. ให้ไปที่ Edit Profiles
3. ไปที่หัวข้อ Finance Information
4. เลือก Recurring Payments
4. ไปที่ Edit Funding Options
*หมายเหตุ: ในขั้นตอนนี้ทำเพื่อไม่ให้ทาง PayPal ทำการดึงเงินออกจากธนาคารกรุงเทพ
และให้ไปดำเนินการดึงเงินจากบัตรเครดิตเราแทน เพราะ PayPal นั้นอันดับ 1 เขาจะ
ขอไปดึงเงินจากธนาคาร

สำหรับใครที่โดน
Limited Access ไปแล้วนะครับ ให้เตรียมเอกสารดังนี้ครับ

1. สำเนาบัตรประชาชน พาสปอร์ต สำเนาทะเบียนบ้านที่มีชื่อที่อยู่เราตามที่ให้ไว้กับ
PayPal
2.
สำเนาหน้าบัญชีธนาคารที่ให้ไว้กับ PayPal
3. Statement บัญชีธนาคารที่มีชื่อ ทีอยู่เรา ของบัญชีที่เราให้ไว้กับ PayPal
4.
ใบเสร็จค่าน้ำค่าไฟ ที่มีชื่อ ที่อยู่เรา
5. ปริ๊น
Cover Sheet จากหน้า PayPal ของเรา
เตรียมเอกสารเหล่านี้ให้มากที่สุดเท่าที่มี แล้วทำตามขั้นตอนที่ PayPal บอกในหน้าเวปครับ
วิธีการแก้ Limited Access แบบที่ 1
1. ให้ Login เข้าระบบ
2. เลือกที่ Auction Tools
3. จะเข้าหน้าเอกสารที่จะต้องส่งไปให้ Paypal เพื่อแก้การโดน Limited Access (แก้การโดนแบน)
4. ให้เราส่งเอกสารที่ Paypal ร้องขอมาให้ครบ โดยอัพโหลดเอกสารที่หน้าเวบ Paypal นะครับ
วิธีการแก้ Limited Access วิธีที่ 2
การแก้ Limited Access โดยการส่ง Fax เอกสารหรือโทรไปที่ต่างประเทศ สำหรับคนที่เก่งภาษาสามารถเลือกวิธีการนี้ได้เลยครับ 
กรุณาจัดส่งเอกสารไปตามที่เขาต้องการโดยมีดังต่อไปนี้
1. สแกนหน้ายอดเงินของสมุดบุ๊คแบงค์
2. บิลค่าน้ำไฟ หรือ บิลค่าอินเทอร์เน็ท ที่มีชื่อเรา
3. สำเนาทะเบียนบ้าน หรือ บัตรประชาชน เพื่อยืนยันที่อยู่ของเรา
4. ปริ๊นซ์ Covert Sheet ที่ PayPal ให้เขียนเหตุผลลงไป ตัวอย่าง

“I send my information already. Please check my account. Thank a lot.”
ส่ง Fax ไปที่เบอร์ +1-402-537-5731 (ดูเบอร์ Fax จาก Covert Sheet เป็นหลัก)
ก็เลยได้โทรศัพท์ไปหา PayPal ที่สิงค์โปร์ ติดต่อที่ 65-6510-4650 เมื่อโทรติดให้กด 1 เพื่อเข้าสู่ภาษาอังกฤษ จากนั้นให้กด 5 เพื่อเข้าสู่ Zone Resolution Center และกด 1 เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ ก็จะมีเจ้าหน้าที่สอบถามเรา โดยเราจะต้องตอบ

- อีเมลของเรา
- ชื่อจริง ภาษาอังกฤษ
- เบอร์โทรศัพท์ที่ลงใน PayPal
- เลข 4 ตัวหลังของบัตรเครดิต

จากนั้นเขาก็จะบอกปัญหาที่เกิดขึ้นกับ Account ของเรา พอเขาพูดหยุดปั๊บ ก็บอกเขาเลยว่า
"I attach file to you already and need to you help my account because it had problem with my business. I can not run anything"
แล้วเจ้าหน้าที่จะบอกว่า จะตามเรื่องให้ และให้เราส่งเมล์ไปแจ้งอีกรอบครับ วิธีการนี้เป็นการปลดล็อคแบบรวดเร็วครับ


ขอบคุณ ข้อมูลจาก www.sunthailand.com